มอเตอร์ประตูรีโมทมีกี่แบบ แบบไหนเหมาะกับประตูรีโมทของคุณ

มอเตอร์ประตูรีโมทมีผลต่อการใช้งานประตูไฟฟ้าโดยตรง หากคุณเลือกมอเตอร์ที่ไม่เหมาะกับประตูก็อาจทำให้อายุการใช้งานของประตูลดลงหรืออาจก่อให้เกิดอันตรายอื่นๆ ตามมาได้ด้วย หากคุณกำลังจะติดตั้งประตูไฟฟ้าเป็นครั้งแรกและไม่รู้ว่าจะต้องเลือกมอเตอร์แบบไหนดี วันนี้เรามีคำแนะนำมาฝากครับ

มอเตอร์ประตูรีโมท คืออะไร

เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยขับเคลื่อนประตูไฟฟ้าให้เปิด-ปิดโดยอัตโนมัติตามคำสั่งของชุดควบคุม ผ่านสัญญาณจากรีโมทคอนโทรลหรืออุปกรณ์อื่น มอเตอร์ประตูรีโมทประกอบด้วย 4 ชิ้นส่วนหลัก ได้แก่ มอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับสร้างแรงเคลื่อนในการเปิด-ปิดประตู, แผงควบคุมสำหรับควบคุมการทำงานของมอเตอร์ รีโมทคอนโทรลสำหรับส่งสัญญาณไปยังแผงควบคุมเพื่อให้มอเตอร์ทำงาน และอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น เซนเซอร์ตรวจจับ สำหรับป้องกันอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างใช้งาน

มอเตอร์ประตูรีโมท มีกี่แบบ อะไรบ้าง

1. มอเตอร์ AC / มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ

เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับแปลงพลังงานไฟฟ้ากระแสสลับ (Alternating Current: AC) ให้กลายเป็นพลังงานกล มีส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่ สเตเตอร์ (Stator) และโรเตอร์ (Rotor) สำหรับการทำงานของมอเตอร์ AC นั้นจะเริ่มขึ้นเมื่อเกิดการจ่ายไฟฟ้ากระแสสลับไปยังขดลวดสเตเตอร์เพื่อให้เกิดสนามแม่เหล็กและเกิดการเหนี่ยวนำให้เกิดกระแสไฟฟ้าในขดลวดโรเตอร์ จากนั้นจะเกิดการสร้างสนามแม่เหล็กของตัวเองเพื่อให้กลายเป็นพลังงานกลที่สามารถนำไปใช้งานได้ต่อไป

มอเตอร์ AC แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ มอเตอร์เหนี่ยวนำแบบกรงกระรอก (Squirrel Cage Motor) มีโครงสร้างเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป มอเตอร์เหนี่ยวนำแบบโรเตอร์พัน (Wound Rotor Motor) เหมาะสำหรับงานที่ต้องการควบคุมความเร็ว และมอเตอร์ซิงโครนัส (Synchronous Motor) เหมาะกับงานที่ต้องใช้ความแม่นยำสูงในขณะที่ความเร็วคงที่

2. มอเตอร์ DC / มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง

เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับแปลงพลังงานไฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current) ให้กลายเป็นพลังงานกล สำหรับการทำงานของมอเตอร์ DC จะเริ่มขึ้นเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวดที่พันอยู่บนแกนกลางและเกิดเป็นสนามแม่เหล็ก จากนั้นสนามแม่เหล็กที่เกิดขึ้นจะโต้ตอบกับสนามแม่เหล็กถาวรที่อยู่ในมอเตอร์ ทำให้เกิดแรงบิดบริเวณแกนกลางและให้มอเตอร์หมุน

มอเตอร์ DC แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ มอเตอร์ DC แปรงถ่าน เป็นมอเตอร์แบบดั้งเดิมที่มีส่วนประกอบของแปรงถ่านและคอมมิวเตเตอร์ สึกหรอง่ายมาก มอเตอร์ DC ไร้แปรงถ่าน ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมทิศทางของกระแสไฟฟ้าแทนแปรงถ่านและคอมมิวเตเตอร์ จึงมีอายุการใช้งานที่นานกว่า และสเต็ปปิ้งมอเตอร์ (Stepping Motor) เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับควบคุมการหมุนเพื่อกำหนดตำแหน่งและทิศทางด้วยมุมองศาให้กับกลไกการทำงานของเครื่องจักรกลที่ต้องการความแม่นยำสูง

มอเตอร์ AC กับ DC ต่างกันอย่างไร

แหล่งจ่ายไฟ มอเตอร์ AC จะทำงานกับไฟฟ้ากระแสสลับ (220V) ส่วนมอเตอร์ DC จะทำงานกับไฟฟ้ากระแสตรง (12V)
โครงสร้าง มอเตอร์ AC จะมีขดลวดโรเตอร์และสเตเตอร์เป็นส่วนประกอบหลัก มีโครงสร้างที่ซับซ้อน ส่วนมอเตอร์ DC มีขดลวดโรเตอร์เป็นส่วนประกอบหลักเพียงตัวเดียว ดังนั้นโครงสร้างจึงไม่ซับซ้อนเท่า
แรงบิด มอเตอร์ AC จะมีแรงบิดสูง เหมาะสำหรับงานหนัก ยกตัวอย่างเช่น ปั๊มน้ำ เครื่องปรับอากาศ ส่วนมอเตอร์ DC จะมีแรงบิดไม่สูงมาก จึงเหมาะกับงานไม่หนักมาก ยกตัวอย่างเช่น เครื่องจักรกลึง ยานพาหนะไฟฟ้า
การควบคุมความเร็ว มอเตอร์ AC จะควบคุมความเร็วได้ยาก เหมาะกับงานที่ต้องการแรงบิดสูง ส่วนมอเตอร์ DC จะควบคุมความเร็วได้ง่ายกว่า เหมาะกับงานที่ต้องการควบคุมความเร็วรอบ
ความทนทาน มอเตอร์ AC จะทนทานมากกว่า ใช้ร่วมกับวัตถุไวไฟหรือสารเคมีได้ แตกต่างจากมอเตอร์ DC ที่ทนทานน้อยกว่า
ราคา มอเตอร์ AC จะมีราคาที่ถูกกว่า ส่วนมอเตอร์ DC จะมีราคาที่แพงกว่า

เลือกมอเตอร์แบบไหนให้เหมาะกับประตูของคุณ

1. เลือกจากประเภทของมอเตอร์

1.1 มอเตอร์ AC

เหมาะสำหรับประตูที่มีน้ำหนักประมาณ 500-2,000 กก. เหมาะสำหรับประตูที่ไม่ได้เปิด-ปิดบ่อย เพราะหากเปิด-ปิดอย่างต่อเนื่องจาประมาณ 3-4 รอบก็อาจทำให้มอเตอร์ร้อน อีกทั้งตัวระบบติดตั้งง่าย ไม่ซับซ้อน เดินไฟบ้านเข้ามอเตอร์ได้เลย มีราคาถูก แต่มีข้อจำกัดตรงตรงที่ประตูจะไม่สามารถใช้งานได้เลยหากเกิดเหตุไฟดับ กรณีที่ประตูของคุณมีน้ำหนักเยอะหรือมีน้ำหนักไม่เยอะมากแต่ใช้งานไม่บ่อย เน้นราคาประหยัด แนะนำเป็นมอเตอร์ AC เลยครับ

1.2 มอเตอร์ DC

เหมาะสำหรับประตูที่มีน้ำหนักประมาณ 500-1,000 กก. เหมาะสำหรับประตูที่เปิด-ปิดบ่อยๆ เนื่องจากตัวมอเตอร์ไม่ฮีทง่ายเท่ามอเตอร์ AC ในส่วนของการติดตั้งนั้นสามารถเดินไฟบ้านเข้าไปยังแบตเตอรี่ในตัวมอเตอร์ได้เลย จึงทำให้ประตูใช้งานได้ปกติแม้ว่าไฟในบ้านจะดับก็ตาม กรณีที่ประตูของคุณไม่ได้มีน้ำหนักเยอะแต่ใช้งานบ่อยๆ แนะนำเป็นมอเตอร์ DC เลยครับ

2. เลือกจากราคา

แน่นอนว่าราคาของมอเตอร์แบรนด์ชั้นนำจากยุโรปมักมีราคาที่ถูกกว่าแบรนด์อื่นที่ราคาไม่แพงมากเนื่องจากมอเตอร์แบรนด์ชั้นนำมักผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง จึงทนทานต่อการใช้งานมากกว่า ไม่ต้องมานั่งเปลี่ยนมอเตอร์บ่อยๆ เหมือนมอเตอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ราคาถูก ดังนั้นคุณควรศึกษาข้อมูลมาก่อนนะครับว่ามีมอเตอร์แบรนด์ชั้นนำแบรนด์ไหนที่น่าเชื่อถือบ้าง และที่สำคัญอย่าลืมดูด้วยว่าช่องทางการติดต่อกับแบรนด์นั้นๆ เป็นของจริงหรือไม่ เพราะในปัจจุบันมีช่องทางที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นมาหลอกผู้บริโภคกันมากขึ้นโดยพยายามตั้งชื่อหรือโพสขายของเหมือนช่องทางของแบรนด์นั้นจริงๆ ถ้าหากคุณไม่ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนก็อาจเสี่ยงต่อการถูกมิจฉาชีพได้เช่นกันครับ

3. เลือกจากระบบเฟืองภายใน

สำหรับวัสดุที่ใช้ผลิตระบบเฟืองภายในของมอเตอร์ประตูรีโมทจะแบ่งเป็น 3 ชนิด ได้แก่ พลาสติก เหล็ก และทองเหลือง โดยเฟืองพลาสติกที่มีราคาถูกที่สุดจะมีอายุการใช้งานที่สั้น เนื่องจากความแข็งแรงทนทานต่ำมาก ส่วนเฟืองเหล็กจะมีความทนทานต่อการใช้งานสูงเพียงแต่เป็นสนิมง่าย ส่วนทองเหลืองนั้นมีความทนทานสูงกว่าวัสดุ 2 ชนิดแรก แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนาน ไม่เป็นสนิม ผิดรูปยากอีกด้วย ดังนั้นอย่าลืมเช็กด้วยนะครับว่ามอเตอร์ที่คุณกำลังจะซื้อมีเฟืองแบบไหน ทั้งนี้เพื่อให้มอเตอร์ทำงานได้ยาวๆ นั่นเองครับ

Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับมอเตอร์ประตูรีโมท

1. มอเตอร์ประตูรีโมท กินไฟไหม

ไม่กินไฟครับ เนื่องจากจะใช้ไฟเฉพาะตอนเปิด-ปิดประตูเท่านั้น ดังนั้นอัตราการกินไฟของมอเตอร์ประตูรีโมทจะน้อยมากๆ ไม่เกิน 10 บาทครับ

2. มอเตอร์ประตูรีโมทไม่ทำงาน ทำยังไงดี

ขึ้นอยู่กับสาเหตุครับ หากไฟไม่เข้ามอเตอร์เพราะฟิวส์ขาดให้ทำการเปลี่ยนฟิวส์ใหม่ แต่หากเกิดจากเบรกเกอร์ตัดให้ลองปิดและเปิดเบรกเกอร์อีกรอบครับ กรณีที่เกิดจากมอเตอร์เสียให้เรียกช่างมาซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ หรือหากเกิดจากเซ็นเซอร์ทำงานผิดปกติเพราะมีแมลงเข้าไปทำรัง/กัดสายไฟ ให้เปลี่ยนอะไหล่มอเตอร์ใหม่ครับ

3. มอเตอร์ประตูรีโมทเสียง่าย เกิดจากอะไร

สำหรับปัญหาที่พบได้บ่อยมีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นมดหรือแมลงอื่นเข้ามาทำรังในมอเตอร์ แนะนำให้ใส่ลูกเหม็นหรือการบูนเอาไว้ในพื้นที่ว่างของมอเตอร์/ทำวงจรช็อตไฟฟ้าป้องกันสัตว์เข้ามาทำรัง, ชุดมอเตอร์เสื่อมสภาพจากการติดตั้งกลางแจ้งเป็นเวลานาน แนะนำให้ทำหลังคาคุมชุดมอเตอร์ด้วย, ปริมาณไฟฟ้าที่มีโวลต์มากเกินไปจากสภาพอากาศที่เลวร้าย เช่น ฝนตก ฟ้าร้อง หรือการเดินสายไฟผิดวิธี แก้ได้ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่า (Surge Protection) และ Volt Protector

สำหรับข้อมูลที่เรานำมาฝากเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น หากคุณวางแผนจะซื้อมอเตอร์ประตูไฟฟ้าจริงๆ แนะนำให้ศึกษารายละเอียดของมอเตอร์แต่ละแบรนด์ให้ดีหรือหากคุณไม่แน่ใจว่ามอเตอร์ที่คุณสนใจนั้นดีกับประตูไฟฟ้าของคุณหรือไม่ แนะนำให้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับแบรนด์ประตูไฟฟ้าชั้นนำที่เชื่อถือได้ เพื่อให้คุณได้ใช้มอเตอร์ประตูที่ทั้งเหมาะและคุ้มราคาที่จ่ายไปมากที่สุดครับ

บทความที่น่าสนใจ

ประตูรีโมท พร้อมติดตั้ง ทำไมต้อง KOWA

หากคุณกำลังมองหาแบรนด์ประตูอัตโนมัติ พร้อมติดตั้ง เรา KOWA จากบริษัท เจ.อาร์ ออฟฟิต ออโตเมชั่น จำกัด มีความเชี่ยวชาญด้านกล้องวงจรปิดมากว่า 35 ปี มีการติดตั้งจากเรามาแล้วกว่า 2 แสนครัวเรือนทั่วไทย เรามีให้บริการติดตั้งและจัดจำหน่ายระบบกล้องวงจรปิด CCTV ภาพคมชัดสูง ตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบทั้งกลางวันและกลางคืน มาพร้อมบริการติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งในและนอกอาคาร

เรามีทีมงานพร้อมให้บริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ยินดีรับสินค้ามาเคลมฟรีภายใน 5 วัน มีประกันศูนย์แท้ สินค้าทุกชิ้นมีประกัน สามารถเข้าศูนย์เพื่อรับบริการได้ทันที หากมีปัญหา ทีมช่างพร้อมซ่อมด่วนหน้างานใน 48 ชม. อีกทั้งรับประกันงานติดตั้ง 2 ปีเต็มบริการหน้างานฟรีตลอด 6 เดือน ด้วยประสบการณ์ของช่างที่มีมานานกว่า 5 ปี ผ่านการติดตั้งมามากกว่า 10,000 งาน ทำให้การติดตั้งเป็นเรื่องง่ายไปเลย เพราะนอกจากจะใช้ระยะเวลาในการติดตั้งไม่นานแล้ว ยังไม่ก่อให้เกิดเสียงดังรบกวนขณะติดตั้งอีกด้วย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: รับปรึกษา จำหน่าย ติดตั้ง ประตูรีโมทจากอิตาลี